วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2562

บันทึกครั้งที่ 7

วันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2562
ความรู้ที่รับ ⇨ รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองในสถานศึกษา สถานศึกษาปฐมวัยจะต้องทำหน้าที่ และร่วมกันรณรงค์เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาและการมีส่วนร่วมกับการศึกษาปฐมวัย โดยจะต้องพัฒนาทั้งความรู้และทักษะ เพื่อนำไปใช้กับเด็กอย่างถูกวิธี
❤รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับชั้นเรียน❤
✌ข่าวสารประจำสัปดาห์✌ เป็นข้อมูลข่าวสารที่ส่งไปถึงผู้ปกครองเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับกิจกรรมของเด็กที่โรงเรียน และแนวทางการส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่เด็กที่บ้านเพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจ และร่วมกันพัฒนาเด็กไปในทิศทางเดียวกัน
✌จดหมายข่าว และกิจกรรม✌ เป็นการนำเสนอความรู้ให้แก่ผู้ปกครอง ในชั้นเรียนให้รับรู้ถึงข่าวสารและกิจกรรมที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์ในการพัฒนาเด็ก โดยจัดส่งให้ผู้ปกครองในทุกสัปดาห์ หรือตามความเหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ 
✌ป้ายนิเทศให้ความรู้ผู้ปกครอง✌ จัดเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ปกครองอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งสามารถจัดได้บริเวณหน้าชั้นเรียนของทุกห้องเรียน โดยนำข้อมูลความรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้ปกครอง จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เช่น เกร็ดความรู้หรือสาระน่ารู้สำหรับผู้ปกครอง, ภาพถ่ายกิจกรรมในชั้นเรียน และผลงานแห่งความภาคภูมิใจ


✌การสนทนา✌ การสนาเป็นรูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองที่เข้าถึง และตรงมากที่สุด การสนทนาเป็นแนวทางหนึ่งของการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีเพื่อผู้ปกครอง และช่วยในการให้ความรู้ผู้ปกครองเป็นไปได้อย่างราบรื่น เพื่อให้ครู และผู้ปกครองได้มีโอกาสพบปะพูดคุย และแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาเด็ก และเพื่อให้ครูและผู้ปกครองได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมเด็กขณะที่อยู่ที่โรงเรียนและที่บ้าน
รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับสถานศึกษา
✌ห้องสมุดผู้ปกครอง✌ เป็นสถานที่เก็บรวบรวมข้อมูลเอกสารต่างๆ อันเป็นแหล่งเรียนรู้ อีกรูปแบบหนึ่งของการให้บริการเผยแพร่ความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร ความเคลื่อนไหวหรือการเปลี่ยนแปลงที่ทันสมัยสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง
✌ป้ายนิเทศ✌ ป้ายนิเทศในลักษณะนี้เป็นป้ายที่จัดเพื่อให้ความรู้ และข้อมูลข่าวสารแก่ผู้ปกครองทั้งสถานศึกษา เช่น ข้อมูลการดำเนินงานของโรงเรียน เช่น ปรัชญา นโยบาย วัตถุประสงค์ หรือข่าวสารบริการต่างๆ เช่น แนะนำสถานศึกษา ข้อมูลกิจกรรมของเด็ก


✌การประชุม✌ เป็นกิจกรรมหลักของสถานศึกษาที่สามารถใช้เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารหรือให้ความรู้แก่ผู้ปกครองได้ดีที่สุด 
✌จุลสาร✌ เป็นลักษณะของสิ่งพิมพ์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในทุกๆ ด้าน ให้แก่ผู้ปกครองได้รับทราบความเคลื่อนไหว และเพื่อประชาสัมพันธ์ เนื้อหาในจุลสารจะประกอบไปด้วย 4 ส่วน คือ ส่วนของบรรณาธิการ  เรื่องราวของเด็กๆ บทความรู้ และเบ็ดเตล็ด


✌คู่มือผู้ปกครอง✌ เป็นเอกสารที่ให้ความรู้ผู้ปกครองได้รับทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษา โดยจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มเหมือนหนังสือทั่วไป ข้อมูลในคู่มือผู้ปกครองประกอบไปด้วย ปรัชญาและเป้าหมายของสถานศึกษา, หลักสูตรและการจัดประสบการณ์, บุคลากรเพื่อแสดงให้เห็นถึงความรู้ความสามารถ, การจัดบริการและสวัสดิการต่างๆ, กฎ ระเบียบ และแนวปฏิบัติ สำหรับผู้ปกครองได้ทราบโดยทั่วกัน และการวัด และประเมินผล
✌ระบบอินเทอร์เน็ต✌ การให้ข้อมูลในรูปแบบของเพจโรงเรียน หรือเว็บไซต์ของทางโรงเรียน
     รูปแบบในการให้ความรู้ผู้ปกครองดังกล่าว สถานศึกษาสามารถจัดให้บริการแก่ผู้ปกครอง โดยมีข้อคิดที่สำคัญคือการคิดหาสื่อและช่องทางที่จะทำให้ความรู้ต่างๆ ถึงผู้ปกครองอย่างทั่วถึง รวดเร็ว และมีการตอบกลับ เพื่อให้สถานศึกษาได้รับรู้ว่าผู้ปกครองตระหนักถึงบทบาทของตนเองต่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็ก และทำให้การศึกษาระหว่างบ้าน และสถานศึกษามีความเข้าใจที่ตรงกัน
❤คำถามท้ายบท❤
1. รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับชั้นเรียน ครูประจำชั้นควรพิจารณาในการเลือกใช้รูปแบบใดบ้าง จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง 
ตอบ ข่าวสารประจำสัปดาห์ เป็นข้อมูลข่าวสารที่ส่งไปถึงผู้ปกครองเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับกิจกรรมของเด็กที่โรงเรียน และแนวทางการส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่เด็กที่บ้านเพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจ และร่วมกันพัฒนาเด็กไปในทิศทางเดียวกัน เช่น บอกถึงการเรียนการสอนในสัปดาห์นั้นให้ผู้ปกครองรู้ และให้ผู้ครองนำสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นมา
จดหมายข่าว และกิจกรรม เป็นการนำเสนอความรู้ให้แก่ผู้ปกครอง ในชั้นเรียนให้รับรู้ถึงข่าวสาร และกิจกรรมที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์ในการพัฒนาเด็ก โดยจัดส่งให้ผู้ปกครองในทุกสัปดาห์หรือตามความเหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ เช่น บอกวันหยุด หรือบอกวันกิจกรรมต่าง ๆ 
การสนทนา การสนาเป็นรูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองที่เข้าถึงและตรงมากที่สุด การสนทนาเป็นแนวทางหนึ่งของการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีเพื่อผู้ปกครอง และช่วยในการให้ความรู้ผู้ปกครองเป็นไปได้อย่างราบรื่น เพื่อให้ครูและผู้ปกครองได้มีโอกาสพบปะพูดคุยและแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาเด็ก และเพื่อให้ครูและผู้ปกครองได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมเด็กขณะที่อยู่ที่โรงเรียนและที่บ้าน

2. รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับสถานศึกษามีรูปแบบใดบ้าง จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ ป้ายนิเทศ จัดเพื่อให้ความรู้และข้อมูลข่าวสารแก่ผู้ปกครองทั้งสถานศึกษา เช่น ข้อมูลการดำเนินงานของโรงเรียน เช่น ปรัชญา นโยบาย วัตถุประสงค์ หรือข่าวสารบริการต่างๆ เช่น แนะนำสถานศึกษา ข้อมูลกิจกรรมของเด็ก 
การประชุม เป็นกิจกรรมหลักของสถานศึกษาที่สามารถใช้เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารหรือให้ความรู้แก่ผู้ปกครองได้ดีที่สุด เช่น การประชุมผู้ปกครอง
คู่มือผู้ปกครอง เป็นเอกสารที่ให้ความรู้ผู้ปกครองได้รับทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษา โดยจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มเหมือนหนังสือทั่วไป ข้อมูลในคู่มือผู้ปกครองประกอบไปด้วย ปรัชญาและเป้าหมายของสถานศึกษา, หลักสูตรและการจัดประสบการณ์, บุคลากรเพื่อแสดงให้เห็นถึงความรู้ความสามารถ, การจัดบริการและสวัสดิการต่างๆ, กฎ ระเบียบ และแนวปฏิบัติ สำหรับผู้ปกครองได้ทราบโดยทั่วกัน และการวัด และประเมินผล
ระบบอินเทอร์เน็ต การให้ข้อมูลในรูปแบบของเพจโรงเรียน หรือเว็บไซต์ของทางโรงเรียน

3. นักศึกษามีวิธีการ หรือแนวทางแก้ปัญหาผู้ปกครองที่ไม่ให้ความร่วมมือในการเข้าร่วมโครงการ หรือกิจกรรมให้ความรู้ผู้ปกครอง จงอธิบาย
ตอบ มีแบบสอบถามให้ผู้ปกครอง และชักจูงด้วยการพูดให้เห็นถึงข้อดีในการเข้าร่วมโครงการ หรืออาจจะมีแผ่นพับให้ความรู้เพื่อดึงดูดความสนใจให้อยากเข้าร่วม

4. การจัดกิจกรรมการให้ความรู้ผู้ปกครองมีความสำคัญ และจำเป็นอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ จำเป็นมาก เพื่อให้ผู้ปกครองนำความรู้ไปพัฒนาเด็กให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น

5. รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองที่มีประสิทธิภาพ มีลักษณะของรูปแบบอย่างไร จงอธิบายพร้อมแสดงความคิดเห็น
ตอบ รูปแบบที่ผู้ปกครองมีความสนใจมาก ไม่ยุ่งยาก และเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองต้องการ
ประเมินตนเอง ☺ วันนี้เข้าเรียนสาย เนื่องจากวิชาก่อนมีกิจกรรมจึงทำให้ล่าช้า 
ประเมินเพื่อน ✌ ตั้งใจฟังอาจารย์ และช่วยกันทำงานในกลุ่มเป็นอย่างดี
ประเมินอาจารย์ ❤ แต่งกายเหมาะสม อธิบายแต่ละหัวข้อได้ละเอียด มีตัวอย่างมาให้ดู และมีการแนะนำการเขียนหัวข้อโครงการ

บันทึกครั้งที่ 6

วันที่ 12 กันยายน พ.ศ.2562
ความรู้ที่รับ ⇨ โครงการ การให้ความรู้ผู้ปกครองในประเทศ และต่างประเทศ ปัจจุบันสถานศึกษาทุกระดับทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับบทบาทหน้าที่ของพ่อแม่ ผู้ปกครองในการจัดการศึกษา การให้ความรู้กับผู้ปกครองจึงเป็นภารกิจที่สถานได้ดำเนินงานในรูปแบบที่แตกต่างไปในแต่ละประเทศ โดยที่แต่ละประเทศได้ดำเนินยุทธศาสตร์การให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง โดยยึดหลักความร่วมมือระหว่างบ้าน โรงเรียน ชุมชน และสังคมจากภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อเป็นการส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพการศึกษาเด็กปฐมวัยให้ไปในทิศทางเดียวกัน
❤โครงการ การให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในประเทศไทย❤
☺โครงการแม่สอนลูก☺ ของกรมฝึกหัดครู มีเป้าหมาย คือให้แม่มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถส่งเสริมพัฒนาการเด็กได้ถูกต้อง
☺โครงการแม่สอนลูก☺ ของศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน จังหวัดอุบลราชธานี มีเป้าหมาย คือให้แม่มีความรู้ ความเข้าใจสามารถจัดกิจกรรมเพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่เด็กก่อนไปโรงเรียน
☺การพัฒนารูปแบบการให้ความรู้แก่พ่อแม่ ผู้ปกครองในการเลี้ยงดูเด็กต่ำกว่า 3 ปี ผ่านโรงพยาบาล และสถานีอนามัย☺ ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มีเป้าหมาย คือให้พ่อแม่ ผู้ปกครองเด็อายุต่ำกว่า 3 ปี มีความรู้ ความเข้าใจในการเลี้ยงดูเด็กอย่างถูกต้อง
☺โครงการการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในเด็กไทย☺ ของสำนักพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข มีเป้าหมาย คือให้พ่อแม่ ผู้ปกครองมีความรู้ ความเข้าใจในการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็ก และเยาวชน
☺โครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อเสร้มสร้างความเข้มแข็งของครอบครัว "บ้านล้อมรัก"☺ ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด มีเป้าหมาย คือให้พ่อแม่ ผู้ปกครองมีความรู้ ความเข้าใจในบทบาทของตนเองต่อการสร้างความสัมพันธ์ในการดูแลเอาใจใส่บุตรหลาน เพื่อให้ปลอดภัยห่างไกลยาเสพติด
☺โครงการหนังสือเล่มแรก☺ ของมูลนิธิเพื่อเด็ก (Thai BBY) มีเป้าหมาย คือให้พ่อแม่ ผู้ปกครองมีความสุขในโลกของหนังสือสร้างพื้นฐานการอ่าน และสานสัมพันธ์ในครอบครัว

❤โครงการ การให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในต่างประเทศ❤
☺Early Childhood Enrichment Center☺ ของอิสราเอล มีเป้าหมาย คือให้สอนแม่ที่อายุน้อยให้สามารถผลิตของเล่น รู้จักสื่อ อุปกรณ์เล่นกับลูกเพื่อช่วยพัฒนาเด็ก
☺HATAF☺ ของอิสราเอล มีเป้าหมาย คือให้พ่อแม่ ผู้ปกครองได้เรียนรู้ และเข้าใจถึงพัฒนาการเด็ก การจัดสิ่งแวดล้อม การเล่นกับเด็ก การพัฒนาทักษะการพูดกับเด็ก
☺Head Start☺ ของสหรัฐอเมริกา มีเป้าหมาย คือการสร้างครอบครัวให้เข้มแข็งในการเลี้ยงดูเด็กขั้นต้น, เชื่อมโยงเด็ก และครอบครัวต่อบริการชุมชนที่มีความต้องการจำเป็น, ประกันโครงการที่จัดการดีว่าพ่อแม่เด็กมีส่วนร่วมในการตกลงใจ
☺Smart Start☺ ของสหรัฐอเมริกา มีเป้าหมาย คือให้พ่อแม่ ผู้ปกครองมีความรู้ ความสามารถในการเลี้ยงดูเด้กให้มีความพร้อมก่อนเข้าเรียนในโรงเรียน
☺Parents as First Teachers☺ ของนิวซีแลนด์ มีเป้าหมาย คือช่วยเหลือแนะนำ และให้ข้อมูลแก่พ่อแม่ให้มีความรู้ ความเข้าใจพัฒนาการเด็ก การอบรมเลี้ยงดู และการส่งเสริมพัฒนาการ
☺Bookstart UK☺ ของอังกฤษ มีเป้าหมาย คือให้พ่อแม่ ผู้ปกครองใช้หนังสือในการพัฒนาความรู้สึกรักหนังสือ และการอ่านให้แก่เด็ก
☺Bookstart Japan☺ ของญี่ปุ่น มีเป้าหมาย คือให้พ่อแม่ ผู้ปกครองใช้หนังสือเป็นสื่อกลางเพื่อสร้างความอบอุ่น อ่อนโยนให้แก่เด็ก

❤คำถามท้ายบท❤
1. ในการดำเนินโครงการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองมั้งใน และต่างประเทศมีเป้าหมายร่วมกันอย่างไร
ตอบ ให้ความสำคัญในเรื่องของการพัฒนาเด็กตั้งแต่เด็กปฐมวัย ซึ่งมีความสำคัญยิ่ง เป็นวัยแห่งการเริ่มต้นที่ดีของชีวิต พ่อแม่ผู้ปกครองจึงต้องเป็นผู้ที่มีความพร้อมและมีคุณภาพในการดูแลเด็ก

2. นักศึกษามีแนวคิดอย่างไรที่จะสนับสนุนให้โครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม จงอธิบาย
ตอบ โดยมีการร่วมมือกันระหว่างองค์การต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน 

3. ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นผู้ที่ให้ความรู้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยในอนาคต จงยกตัวอย่างขององค์ความรู้ หรือเรื่องที่ต้องการจะถ่ายทอดให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองเพื่อใช้ในการเลี้ยงดูเด็ก มา 5 เรื่องพร้อมอธิบาย และยกตัวอย่างประกอบ
ตอบ 1. พัฒนาการของเด็กปฐมวัย พ่อแม่ ผู้ปกครองควรเข้าใจก่อนว่าในวัยของลูกนั้นเขาต้องการอะไร เราจะได้ส่งเสริมได้ถูกวิธี
2. โภชนาการสำหรับเด็ก ให้ความรู้เกี่ยวอาหารที่มีประโยชน์ เหมาะแก่วัยของเด็ก รวมถึงการดึงดูดให้เด็กรับประทานอาหาร 
3. สื่อ และอุปกรณ์ของเด็กปฐมวัย สอนการทำสื่อ เช่น สื่อที่ดึงดูดความสนใจเด็ก เพลง นิทาน และสื่อที่พัฒนาในด้านต่าง ๆ 
4. ภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัย โดยสมัยนี้ภาษามีอิทธิพลมาก จึงต้องปลูกฝังเด็ก ๆ ตั้งแต่เล็ก โดยให้พ่อแม่พูดคุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษช่วงที่เขาทำกิจวัตรประจำวัน 
5. การช่วยเหลือตนเองในชีวิตประจำวัน โดยแนะนำให้ผู้ปกครองช่วยฝึกลูกในการทำกิจวัตรประจำวันเอง

4. การให้ความรู้ผู้ปกครองสามารถส่งผลต่อพฤติกรรมเด็กหรือไม่อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ ส่งผลอย่างมาก เมื่อเราให้ความรู้แก่ผู้ปกครองแล้ว ผู้ปกครองก็จะเริ่มปรับเปลี่ยนวิธีการพัฒนาเด็กตามสิ่งที่ได้เรียนรู้ และเข้าใจมา ช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้น และสร้างความพันธ์ที่ดีในครอบครัวได้มากยิ่งขึ้น

5. นักศึกษาจะมีวิธีในการติดตามผลการให้ความรู้ผู้ปกครองอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ สอบถาม พูดคุยกับผู้ปกครอง หรืออาจจะมีการเยี่ยมบ้านเพื่อดูถึงความเปลี่ยนแปลงภายในบ้าน
ประเมินตนเอง ☺ เข้าเรียนตรงเวลา 
ประเมินเพื่อน ✌ ตั้งใจฟังอาจารย์
ประเมินอาจารย์ ❤ แต่งกายเหมาะสม อธิบายแต่ละหัวข้อได้ละเอียด มีตัวอย่างมาให้ดู

วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2562

บันทึกครั้งที่ 5

วันที่ 5 กันยายน พ.ศ.2562
"☺ไม่มีการเรียนการสอนเนื่องจากอาจารย์ลาป่วย☺"

บันทึกครั้งที่ 4

วันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2562
ก่อนเรียนมีทดสอบสมองก่อนเรียน โดยมีคำภาษาอังกฤษมาให้หาตัว F ว่ามีกี่ตัว หาได้กี่ตัวก็จะแปลความหมาย เช่น หากคุณนับได้ 6 ตัว ตั้งแต่ครั้งแรก คุณค่อนข้างมีสมองที่ดีเลิศดั่งอัจฉริยะ
ความรู้ที่รับ ⇨ การสื่อสารกับผู้ปกครองเด็กปฐมวัย 
การสื่อสาร ⇉ การส่งสารจากผู้ส่งไปยังผู้รับ เพื่อให้ผู้รับมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา และให้มีความเข้าใจที่ตรงกันนำไปสู่การดำรงชีวิตที่มีความสุข
ความสำคัญ ⇉ ทำให้รับรู้เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มีความเข้าใจตรงกัน รวมทั้งได้สิ่งดี ๆ กลับมา เช่น เพื่อน ความรู้สึกของผู้อื่น หรืออาจจะเป็นความรู้สึกของตนเอง ก่อให้เกิดตวามพึงพอใจในชีวิต
รูปแบบของการสื่อสารในแบบต่าง ๆ 
❤อริสโตเติล❤ 

ผู้พูด  → คำพูดผู้ฟัง

❤ลาล์สเวล❤ 


❤แชนนอน และวีเวอร์❤ 
❤ออสกูด และชแรมม์❤ 

❤เบอร์โล❤ 

องค์ประกอบของการสื่อสาร
 1. ผู้ส่งสาร → ผู้จัด, ผู้พูด, ผู้ถาม, คนแสดง, นักเขียน
 2. ข้อมูลข่าวสาร → เรื่องราวที่รับรู้ร่วมกัน เท็จ จริง คำแนะนำ ความห่วงใย มนุษย์จะแสดงออกมาให้รับรู้ได้
 3. สื่อในช่องทางการสื่อสาร → ใช้วิธีพูด เขียน หรือนำเสนอในรูปแบบต่าง ๆ 
 4. ผู้รับสาร → ผู้ชม, ผู้ฟัง, ผู้ตอบ, คนดู, นักอ่าน
 5. ความเข้าใจ และการตอบสนอง 
วัตถุประสงค์
 1. เพื่อแจ้งให้ทราบ 
 2. เพื่อสอน หรือให้การศึกษา
 3. เพื่อสร้างความพอใจ หรือให้ความบันเทิง
 4. เพื่อเสนอหรือชักจูงใจ
ประเภทของการสื่อสาร
 1. แยกตามกระบวนการ หรือการไหลของข่าวสาร → แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การสื่อสารทางเดียว ส่งไปทางผู้รับในทิศทางเดียวโดยไม่มีการตอบกลับ เช่น สื่อสารผ่านวิทยุ หนังสือพิมพ์ เป็นต้น การสื่อสารสองทาง การส่งข่าวออกไปแต่มีการตอบกลับมาจากผู้รับ เช่น การพบปะพูดคุย การออกคำสั่ง
 2. แยกตามภาษาสัญลักษณ์ที่แสดงออก → ทางการพูด การเขียน และทางกาย
 3. แยกตามจำนวนผู้สื่อสาร → สื่อสารกับตนเอง, สื่อสารระหว่างบุคคล, สื่อสารสาธารณะ, สื่อสารในครอบครัว, สื่อสารในโรงเรียน, สื่อสารในสังคมทั่วไป
อุปสรรคของการสื่อสาร ⇉ ขาดทักษะในการสื่อสารที่ดี ข้อมูลมากเกินไป ได้ข้อมูลที่ไม่ชัดเจน ไม่สมบรูณ์ ใช้เครื่องมือในการส่งสารที่ไม่เหมาะสม และไม่รับฟังความคิดเห็นจากผู้อื่น
❤คำถามท้ายบท❤
1. จงอธิบายความหมาย และความสำคัญของการสื่อสารมาโดยสังเขป
ตอบ การส่งสารจากผู้ส่งไปยังผู้รับ เพื่อให้ผู้รับมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา และให้มีความเข้าใจที่ตรงกันนำไปสู่การดำรงชีวิตที่มีความสุข

2. การสื่อสารมีความสำคัญกับผู้ปกครองอย่างไร
ตอบ ทำให้ผู้ปกครองสื่อสารกับเด็กได้เข้าใจ และยังสามารถรับสารจากครูที่โรงเรียนเกี่ยวกับเรื่องของเด็ก 

3. รูปแบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการให้ความรู้ผู้ปกครอง ควรเป็นรูปแบบใด จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ การให้ความรู้แบบการจัดประชุม หรือการจัดกิจกรรมในเรื่องที่ผู้ปกครองต้องการรู้ เช่นการจัดประชุมผู้ปกครองของทางโรงเรียนเพื่อให้รู้พัฒนาการของลูก และแนวทางการแก้ไข

4. ธรรมชาติ และการเรียนรู้ของผู้ปกครองควรมีลักษณะอย่างไร
ตอบ เรียนรู้ได้ดีในเรื่องของการพัฒนาเด็ก, เรียนรู้ได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีความสมานฉันท์, มีความแปลกใหม่ และมีประโยชน์ต่อเด็ก และเรียนรู้ได้ดีจากสื่อ อุปกรณ์ที่หลากหลาย

5. ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนพฤติกรรมการเรียนรู้สำหรับผู้ปกครอง เพื่อใหผู้ปกครองมีความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก ประกอบด้วยปัจจัยด้านใดบ้าง
ตอบ ความพร้อม - สภาพสมบรูณ์ทางด้านร่างกาย และจิตใจ 
ความต้องการ - ให้ชีวิตดำเนินไปอย่างมีความสุข 
อารมณ์ และการปรับตัว - ปรับอารมณ์ให้เกิดความสมดุลพร้อมที่จะเรียนรู้ 
การจูงใจ - การกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ 
การเสริมแรง - การสร้างความพึงพอใจหลังการเรียนรู้ให้แก่ผู้ปกครอง 
ทัศนคติ และความสนใจ - การที่บุคคลมีการตอบสนอง และแสดงความรู้สึกต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ 
ความถนัด - ความสามารถของบุคคลในการทำกิจกรรมให้สำเร็จ

ประเมินตนเอง ☺ เข้าเรียนตรงเวลา ร่วมทำกิจกรรมในห้อง 

ประเมินเพื่อน ✌ ร่วมทำกิจกรรม และช่วยกันปรึกษา
ประเมินอาจารย์ ❤ แต่งกายเหมาะสม อธิบายแต่ละหัวข้อได้ละเอียด

บันทึกครั้งที่ 3

วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ.2562
ความรู้ที่รับ ⇨ หลักเบื้องต้นในการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองเด็กปฐมวัย การให้ผู้ปกครองได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาจะช่วยทำให้พ่อแม่ ผู้ปกครองได้เรียนรู้และเข้าใจถึงจุดมุ่งหมายที่สำคัญของการพัฒนาเด็ก ทำให้ดำเนินงานทางการศึกษาระหว่างบ้านกับโรงเรียนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน 
ความหมายของการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครอง ⇉ การให้ความรู้เกี่ยวกับการอบรมเลี้ยงดูเด็ก เพราะผู้ปกครองใกล้ชิดเด็กมากที่สุด การให้ความรู้ช่วยให้ผู้ปกครองได้เรียนรู้ถึงวิธีการในการดูแล และให้การศึกษาแก่เด็ก เพื่อให้เด็กเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ
ความสำคัญของการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครอง ⇉ ช่วยให้สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเด็ก รวมถึงบทบาทหน้าที่ที่มีต่อเด็ก และลดการขัดแย้งทางการศึกษา ช่วยให้การศึกษาไปในทิศทางเดียวกัน ครอบครัวแข็งแรงมีความใกล้ชิดกัน
วัตถุประสงค์
 1. เพื่อให้เข้าใจถึงวิธีในการอบรมเลี้ยงดูเด็ก และให้การศึกษาแก่เด็ก
 2. เพื่อส่งเสริมความรู้ และพัฒนาการให้แก่เด็ก
 3. เพื่อให้ที่บ้านเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาในโรงเรียน
 4. เพื่อให้ผู้ปกครองตะรหนักถึงบทบาทหน้าที่ของตนเอง
รูปแบบในการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองเด็กปฐมวัย ⇉ มี 2 ส่วนหลัก ๆ คือ การมีส่วนร่วมที่บ้าน  เช่น จัดกิจกรรมทำร่วมกันที่บ้าน อ่านหนังสือ เล่านิทาน และช่วยสอนการบ้าน อีกส่วนคือ การมีส่วนร่วมที่สถานศึกษา เช่น เข้าร่วมประชุม ร่วมทำกิจกรรมของโรงเรียน 
แนวทางการให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง ⇉ จัดกิจกรรมให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วม โดยกิจกรรมที่จัดขึ้นจะต้องเหมาะสมกับสภาพสังคม ครอบครัว และเจตคติของผู้ปกครอง 
บทบาทของผู้ปกครองในการร่วมกิจกรรมการให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง
 1. ให้การอบรมเลี้ยงดู และปัจจัย 4
 2. ให้การศึกษาขั้นพื้นฐาน
 3. ฝึกอบรมเด็กให้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
 4. ถ่ายทอดวัฒนธรรม ประเพณี บทบาทหน้าที่ในครอบครัวให้แก่เด็ก
 5. ช่วยแก้ปัญหาและอบรมสร้างวินัยอันดีให้แก่เด็ก
 6. จัดประสบการณ์และสิ่งแวดล้อม 
 7. เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็ก
 8. เสริมสร้างบุคลิกภาพและการสร้างสรรค์
 9. ปลูกฝังคุณธรรมให้แก่เด็ก
แนวปฏิบัติของสถานศึกษา 
 1. รับฟังความคิดเห็น และความรู้สึกของผู้ปกครองที่มีต่อเด็ก
 2. ไม่พูดถึงเด็กในทางที่ไม่ดีเท่านั้น แต่ควรพูดถึงพัฒนาการของเด็กบ้าง
 3.  พูดคุยให้เข้าใจ ไม่วิชาการเกินไป
❤คำถามท้ายบท❤
1. การจัดการศึกษาปฐมวัยในปัจจุบันการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองมีความสำคัญอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ ผู้ปกครองจะได้ความรู้ในการนำไปอบรมเลี้ยงดูเด็ก และให้ความรู้เพื่อให้เด็กได้เตรียมตัวเป็นคนที่มีคุณภาพ

2. ในสถานศึกษาปฐมวัยสามารถดำเนินกิจกรรมการให้ความรู้ผู้ปกครองในลักษณะ หรือรูปแบบใดบ้าง จงอธิบาย และยกตัวอย่างของกิจกรรม
ตอบ การที่ผู้ปกครองเข้าไปร่วมกิจกรรม หรือช่วยเหลืองานของสถานศึกษาปฐมวัยที่จัดขึ้น เช่น การการเข้าร่วมประชุมผู้ปกครอง การไปทัศนศึกษาร่วมกับสถานศึกษา การร่วมกิจกรรมในวันหยุด

3. นักศึกษามีแนวคิดอย่างไรในการใช้บ้านเป็นฐานของการให้ความรู้ผู้ปกครอง
ตอบ ทำให้ผู้ปกครองได้ใกล้ชิดเด็กมากขึ้น รู้จัก เข้าใจเกี่ยวกับตัวเด็ก และส่งเสริมพัฒนาการของเด็กให้ดีขึ้น

4. องค์ความรู้ที่จำเป็นในการให้ความรู้ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยเกี่ยวข้องกับเรื่องใดบ้าง
ตอบ พัฒนาการของเด็ก โภชนาการ สร้างความเข้าใจในวัยของเด็ก และสื่อการเรียนรู้ที่จะส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้น เป็นต้น
ประเมินตนเอง ☺ เข้าเรียนตรงเวลา คุยกับเพื่อน ๆ เล็กน้อย

ประเมินเพื่อน ✌ ตั้งใจฟังอาจารย์ 

ประเมินอาจารย์ ❤ แต่งกายเหมาะสม อธิบายแต่ละหัวข้อได้ละเอียด

วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2562

บันทึกครั้งที่ 2

วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2562
ความรู้ที่รับ ⇨ ผู้ปกครอง หมายถึง ผู้ที่เป็นบิดา มารดา ญาติพี่น้องหรือบุคคลอื่นที่ให้การอบรมเลี้ยงดูให้การศึกษาแก่เด็กที่อยู่ในการดูแลให้ความรักและความเอาใจใส่ห่วงใยตลอดจนให้การศึกษาแก่เด็ก
ความสำคัญของผู้ปกครอง ⇉ ผู้ปกครองมีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็ก ซึ่งพ่อแม่มีความใกล้ชิดกับเด็ก เป็นผู้ที่มีความหมายต่อชีวิตเด็กทั้งการเจริญเติบโตทางร่างกายและจิตใจเป็นผู้ที่เด็กมอบความรักด้วยความบริสุทธิ์ใจ โดยเฉพาะเด็กปฐมวัยถือเป็นพื้นฐานในการพัฒนาบุคลิกภาพในอนาคต ผู้ปกครองจึงเป็นผู้นำที่จะช่วยให้เด็กเจริญเติบโต มีพัฒนาการที่เหมาะสมเพื่อการก้าวสู่โลกกว้างได้อย่างมั่นคงและมีความพร้อมในทุกด้าน
บทบาทหน้าที่ของผู้ปกครอง ⇉ 
1.  ให้ความรักและสายสัมพันธ์ในครอบครัว
2.  ให้ความเอาใจใส่และเอื้ออาทรต่อลูก
3.  ทำตนให้เป็นแบบที่ดีแก่ลูก
4.  ให้ประสบการณ์การเรียนรู้ในสังคมเกี่ยวกับการปฏิบัติตน
5.  ส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ให้เป็นไปตามวัย
6.  ให้หลักธรรมในการพัฒนาเด็กด้วยหลักไตรสิกขา (ศีล สมาธิ ปัญญา)
7.  ส่งเสริมพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ โดยผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย
8.  ศึกษาการเจริญเติบโตของเด็ก
9.  เอาใจใส่ดูแลสุขภาพ
10. สนับสนุนเตรียมความพร้อมก่อนสู่สังคม
❤คำถามท้ายบท❤
1. ในสังคมปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นักศึกษาคิดว่าบทบาท และหน้าที่ของผู้ปกครองที่มีต่อเด็กปฐมวัยมีอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ บทบาทหน้าที่รับผิดชอบเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนให้เด็กเป็นคนดี ตามหน้าที่ของพ่อแม่และผู้ปกครองที่ดี ซึ่งนอกจากจะให้การอบรมเลี้ยงดูแล้ว ต้องให้ทั้งความรัก ความเอาใจใส่ จัดประสบการณ์และสิ่งแวดล้อมที่จะช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้และพัฒนาในทุก ๆ ด้านเพื่อเด็กจะเติบโตและสามารถเผชิญความเปลี่ยนแปลงของสังคม 

2. จงอธิบายวิธีแนวทางที่ผู้ปกครองสามารถใช้ในการส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์ - จิตใจ สังคม และสติปัญญาให้แก่เด็กปฐมวัย
ตอบ ผู้ปกครองต้องมีเวลาให้แก่เด็กเพื่อที่จะได้จัดกิจกรรมร่วมกัน หรือถ้าไม่มีเวลาก็ยังสามารถแทรกกิจกรรมเข้าไปในแต่ละกิจวัตรประจำวัน เช่น ชวนเด็ก ๆ เข้าครัว ก่อนนอนเล่านิทานให้ฟัง เป็นต้น 

3. การฝึกให้เด็กเป็นคนดี คนขยัน และฉลาดผู้ปกครองควรปฏิบัติอย่างไร
ตอบ ผู้ปกครองควรเป็นแบบอย่างให้ดีแก่เด็ก ๆ ก่อน หลังจากนั้นเขาจะเริ่มทำตาม เราก็ยังสามารถพูดอธิบายสอดแทรกคุณธรรมให้แก่เด็ก ๆ ด้วย

4. ปัญหาที่เป็นอุปสรรค์ของผู้ปกครองที่มีผลกระทบต่อเด็กปฐมวัย คือปัญหาที่เกี่ยวกับเรื่องใด จงอธิบาย
ตอบ ปัจจุบันผู้ปกครองเริ่มไม่มีเวลาให้แก่เด็ก ๆ ไม่สามารถอบรมสั่งสอนได้เท่าที่ควร และผู้ปกครองยังขาดความรู้ความสามารถที่จะคอยดูแลเด็ก ๆ ด้วย
ประเมินตนเอง ☺ เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจฟังอาจารย์บ้าง และคุยปรึกษากับเพื่อน ๆ เล็กน้อย
ประเมินเพื่อน ✌ ตั้งใจฟังอาจารย์ ช่วยกันออกความคิดเห็น
ประเมินอาจารย์ ❤ แต่งกายเหมาะสม อธิบายแต่ละหัวข้อได้ละเอียด